ตำบลเชียงพิณ

    วัดป่าวิเวกโนนแคน

พระครูอรัญสารสุนทร 

( สงวน อตฺตสาโร )

เจ้าคณะตำบลเชียงพิณ

๐๘๑-๒๗๒-๗๑๑๒

 พระอธิการวีระศักดิ์ 

เจ้าอาวาสวัดป่าวิเวกโนนแคน

๐๖๒-๐๔๓-๖๔๙๐

วัดป่าวิเวกโนนแคน   ตั้งอยู่เลขที่   ๗๗๗   บ้านเชียงพิณ   ต.เชียงพิณ   อ.เมืองอุดรธานี   จ.อุดรธานี 

สร้างเมื่อปี   พ.ศ. ๒๒๙๐ 

ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา   เมื่อวันที่  ๑๒  กุมภาพันธ์  พ.ศ.  ๒๕๔๕ 

ประวัติความเป็นมา    วัดป่าวิเวกโนนแคน เป็นวัดวัดหนึ่งซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกของบ้านเชียงพิณตั้งขึ้นเมื่อใดไม่ปราากฏชัดเจน ประมาณว่า พ.ศ. ๒๒๙๐  ตกอยู่ในสภาพวัดร้างไม่มีพระจำพรรษา  ไม่พบซากก่อสร้างเป็นเพียงป่าไผ่ที่เป็นเนิน  จนกระทั่งประมาณปี พ.ศ. ๒๕๑๔ ท่านพระครูวิเวกธรรมคุณ  ได้มาทำการบูรณะจัดตั้งขึ้นเป็นวัดขึ้นอีกครั้งหนึ่งและตั้งชื่อว่า   วัดป่าวิเวกโนนแคน  

เพราะตั้งอยู่ในชุมชนโบราณที่เรียกว่า  บ้านโนนแคน  สภาพวัดรกร้างไม่มีเสนาสนะ  เป็นป่าดอนป่าไผ่เป็นดอนปู่ตา  ลักษณะพื้นที่เป็นเนินสูง ตั้งอยู่กลางทุ่งนาท้ายหมู่บ้านเชียงพิณ ปัจจุบันวัดได้มีการพัฒนาอย่างมากตามสถานการณ์และยุคสมัย เป็นศูนย์การเผยแผ่พระพุทธศาสนาเท่าทุกวันนี้ 

การบริหารและการปกครอง  มีเจ้าอาวาสเท่าทราบรายนามคือ

(  พระครูอรัญสารสุนทร  )  ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเจ้าคณะตำบลเชียงพิณ

(  พระอธิการวีระศักดิ์  )   ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส   วัดป่าวิเวกโนนแคน

         วัดสุริยาราม

พระปลัดเกียงศักดิ์  กนฺตสีโล 

เจ้าอาวาสวัดสุริยาราม

๐๖๒-๔๗๘-๔๒๒๙ 

วัดสุริยาราม    ตั้งอยู่เลขที่  ๗๓๘  บ้านเชียงพิณ   ต.เชียงพิณ  อ.เมืองอุดรธานี  จ.อุดรธานี

สร้างเมื่อวันที่  ๔  มิถุนายน  พ.ศ.๒๕๐๒

ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา   เมื่อวันที่  ๑๓  กุมภาพันธ์  พ.ศ.  ๒๕๔๘

ประวัติความเป็นมา   วัดสุริยารามเป็นวัดที่ตั้งอยู่ใจกลางหมู่บ้านเชียงพิณ  เริ่มสร้างพร้อมกับชุมชนบ้านเชียงพิณ  ติดถนนอุดร-กุดจับ ใช้ประกอบกิจทางศาสนามาตลอด   มีการสร้างเสนาสนะที่พร้อมกับการปฏิบัติศาสนกิจเป็นอย่างดี  เช่น  ศาลาการเปรียญ 

ศาลาหอฉันท์  อุโบสถ  กุฏิที่พักอาศัย วัดมีการพัฒนาและเจริญรุ่งเรืองมาโดยตลอดทุกยุคทุกสมัย บ้านเชียงพิณเป็นหมู่บ้านใหญ่ปัจจุบันมีการแยกเป็น ๒ หมู่บ้าน และมีวัดในความอุปถัมภ์ของหมู่บ้าน  จำนวน ๔ วัด แต่วัดสุริยารามก็เป็นวัดหลักของ

หมู่บ้านเชียงพิณมา  จนถึงทุกวันนี้   วัดสุริยารามเป็นวัดที่มีพระภิกษุจำพรรษาโดยตลอดไม่เคยขาด   เพราะเป็นวัดประจำหมู่บ้าน สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ที่ดินตั้งวัดมีเนื้อที่ ๑๖ ไร่ ตาม น.ส.๓ อาณาเขต ทิศเหนือประมาณ ๔ เส้น ทิศใต้ประมาณ ๔ เส้น ทิศตะวันออกประมาณ ๔ เส้น ทิศตะวันตกประมาณ ๔ เส้น มีธรณีสงฆ์จำนวน ๒ แปลง เนื้อที่ ๒๔ ไร่ตาม น.ส.๓ อาคารเสนาสนะประกอบด้วย อุโบสถสร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๔ ศาลาการเปรียญเป็นอาคารไม้ สร้างพ.ศ. ๒๔๙๒ กุฎิจำนวน ๖ หลัง ปูชนียวัตถุ มีพระพุทธรูป วัดสุริยาราม เดิมชื่อ

"วัดโพธิ์ศรี" และมีการจัดบุญประเพณี "ฮีตสิบสองครองสิบสี่" มาโดยตลอด

การบริหารและการปกครอง  มีเจ้าอาวาสเท่าที่ทราบนามคือ

     รูปที่๑   หลวงปู่เภา                                                                                 

ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส   วัดสุริยาราม

        วัดศรีชมชื่น

 พระอธิการกันยา กิตติญาโณ 

เจ้าอาวาสวัดศรีชมชื่น

๐๖๑-๐๕๖-๒๐๕๕

วัดศรีชมชื่น    ตั้งอยู่เลขที่   ๓๙๐   บ้านจำปา   ต.เชียงพิณ   อ.เมืองอุดรธานี   จ.อุดรธานี

สร้างเมื่อปี   พ.ศ. ๒๕๐๘

ประวัติความเป็นมา   วัดศรีชมชื่นเป็นวัดที่ตั้งอยู่กลางหมู่บ้าน  เป็นศูนย์รวมศรัทธาของชาวบ้าน บ้านจำปาหมู่บ้านเล็กๆ  ซึ่งเป็นชุมชนที่แยกออกมาจากบ้านนาแอง  ซึ่งเป็นหมู่บ้านใหญ่  ที่ดินตั้งวัดมีเนื้อที่ ๑๕ ไร่ ๑ งาน ๖๕ ตารางวา อาณาเขตทิศเหนือประมาณ ๓ เส้น ๔ วา จดถนนสาธารณะประโยชน์ ทิศใต้ประมาณ ๒ เส้น ๗ วา ๑ ศอก จดทางสาธารณะประโยชน์ ทิศตะวันออกประมาณ ๔ เส้น ๗ วา ๒ ศอก  จดถนนสาธารณะประโยชน์  ทิศตะวันตกประมาณ ๖ เส้น ๑๑ วา ๔ ศอก จดที่นาของ นางนาง ภิบาลขัน มีที่ธรณีสงฆ์จำนวน ๑ แปลง เนื้อที่ ๓ ไร่ ๑ งาน ๑๐ ตารางวา อาคารเสนาสนะประกอบด้วย ศาลาการเปรียญ สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๓ เป็นอาคารไม้เนื้อแข็ง วิหารสร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๘ และกุฎิสงฆ์ จำนวน ๓ หลัง  

           วัดศรีชมชื่น สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๒ โดยพระสมบูรณ์ พิมภูราช ร่วมกับชาวบ้านจำปา  สร้างวัดขึ้นในที่ดินของ พ่อใหญ่ บัวลี คนสูง นาย ต่วน วรรณศิริ และนาย หัก คนสูง เพื่อเป็นสถานที่หลัก ในการจัดกิจกรรม ของชุมนุมชนของชาวบ้าน จำปา 

การบริหารและการปกครอง  มีเจ้าอาวาสเท่าที่ทราบรายนามคือ

ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส   วัดศรีชมชื่น

     วัดธรรมศิริบัณฑิต

 พระครูสุธรรมภัทรคุณ 

เจ้าอาวาสวัดธรรมศิริบัณฑิต

๐๘๘-๗๐๖-๗๑๖๔

วัดธรรมศิริบัณฑิต   ตั้งอยู่เลขที่  ๓๑๖   บ้านหนองฮาง   ต.เชียงพิณ   อ.เมืองอุดรธานี   จ.อุดรธานี 

สร้างเมื่อปี  พ.ศ.  ๒๔๘๕

ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา   เมื่อวันที่  ๒๓  พฤศจิกายน  พ.ศ.  ๒๕๖๑

ประวัติความเป็นมา   วัดธรรมศิริบัณฑิต  บ้านหนองฮาง  สร้างเมื่อประมาณ  พ.ศ.๒๔๘๕  แต่วัดไม่ค่อยมีภิกษุจำพรรษา และมาถึงช่วงประมาณ  พ.ศ.๒๕๓๐  เริ่มมีการพัฒนาก่อสร้างวัตถุถาวร  เสนาสนะจนถึงปัจจุบันนี้  ปัจจุบันนี้มีทั้งพระภิกษุ - สามเณรจำพรรษาไม่เคยขาด   อีกทั้งเสนาสนะก็ได้มีการสร้างอย่างมาตรฐานก่ออิฐก่อปูน   ใช้งานได้อีกเป็นเวลายาวนาน  อีกทั้งรองรับผู้คนได้

จำนวนมาก

การบริหารและการปกครอง  มีเจ้าอาวาสเท่าที่ทราบรายนามคือ

ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส   วัดธรรมศิริบัณฑิต

     สำนักสงฆ์ดอนบง

เจ้าสำนักสงฆ์ดอนบง

สำนักสงฆ์ดอนบง    ตั้งอยู่ที่บ้านเชียงพิณ   ต.เชียงพิณ   อ.เมืองอุดรธานี   จ.อุดรธานี

สร้างเมื่อปี   พ.ศ.  ๒๕๔๐

ประวัติความเป็นมา   สำนักสงฆ์ดอนบง   เป็นศาสนสถานประจำชุมชนจามจุรีหรือโนนเสด็จ   ซึ่งตั้งอยู่หลังโรงเรียนมัธยม  สิริวัณวลี 

ในพื้นที่สาธารณะประโยชน์ เดิมทีไม่เป็นวัดหรือศาสนสถานเนื่องจากคนในชุมชน มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นและการเดินทางไปทำบุญประเพณีอีสานที่วัดในบ้านก็อาจจะไม่สะดวกเท่าที่ควร  จึงมีการสร้างวัดขึ้นที่โนนเสด็จแห่งนี้  เป็นวัดที่  ๓  ของบ้านเชียงพิณ กิจกรรมหรือศาสนกิจประเพณีก็เรียบง่าย   เพราะเป็นชุมชนเล็ก   พระจำพรรษาก็ไม่มาก  ปีละรูปสองรูป 

 โดยการนำของ  พระอาจารย์เสริญ   ปคุณธมฺโม   ซึ่งท่านได้แยกออกมาจากวัดสุริยาราม  บ้านเชียงพิณ  หรือวัดใน

การบริหารและการปกครอง  มีเจ้าอาวาสเท่าที่ทราบรายนามคือ

  สำนักสงฆ์นิมิตป่าม่วง

  พระอธิการเพ็ง ปภสฺสโร 

เจ้าสำนักสงฆ์นิมิตป่าม่วง

๐๘๘-๐๖๗-๑๒๑๑

สำนักสงฆ์นิมิตป่าม่วง    ตั้งอยู่บ้านจำปา   ต.เชียงพิณ   อ.เมืองอุดรธานี   จ.อุดรธานี 

สร้างเมื่อวันที่  ๒๑  มีนาคม  พ.ศ.๒๕๔๙

ประวัติความเป็นมา    สำนักสงฆ์นิมิตป่าม่วง   ตั้งอยู่ท้ายหมู่บ้านจำปา  ตำบลเชียงพิณ  ตั้งอยู่ในที่สาธารณะประโยชน์ของบ้านจำปา

(   ป่าช้าบ้านจำปา )   เริ่มต้นจากมีพระสงฆ์ที่จาริกธุดงค์มาพักแรมในสถสานที่แห่งนี้   อีกทั้งเป็นป่าไผ่   มีความร่มรื่นเหมาะ

แก่การปฏิบัติธรรม  พระอาจารย์เพ็ง  ปภสฺสโร  ซึ่งขณะนั้นท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดศรีชมชื่น  หรือเรียกว่าวัดในบ้านจำปา ท่านก็ได้พาญาติโยม - ญาติธรรมทั้งหลาย   มาบุกเบิกตั้งเป็นที่พักสงฆ์   สร้างฌาปนสถาน  ศาลาการเปรียญ  และพระพุทธรูปนาคปรก 

และพัฒนาสถานที่เพื่อให้ใช้ประโยชน์ทางพระศาสนาจนถึงทุกวันนี้

การบริหารและการปกครอง  มีเจ้าอาวาสเท่าที่ทราบรายนามคือ

ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง   เจ้าสำนักสงฆ์นิมิตป่าม่วง